En 2024, la Guía MICHELIN anuncia las primeras Llaves MICHELIN, una nueva distinción que reconoce a los hoteles más destacados del mundo.
รางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอกถือเป็นรางวัลโรงแรมระดับสูงสุดในคู่มือ 'มิชลิน ไกด์' การได้รับกุญแจหนึ่งดอก (มอบให้กับที่พัก 80 แห่ง) หรือสองดอก (มอบให้ที่พัก 12 แห่ง) ก็ถือเป็นเรื่องที่ยากเพียงพอแล้ว ทว่ามีโรงแรมเพียง 5 แห่งในประเทศสเปนเท่านั้น ที่โดดเด่นชนะเลิศจนได้รับรางวัลกุญแจมิชลินถึง 3 ดอก โรงแรมที่โดดเด่นที่สุดเหล่านี้ กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เมืองหลวงอย่างกรุงมาดริด ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติมอนต์ซานต์ (Montsant National Park) อันงดงาม
หากไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ใด ทุกโรงแรมในสเปนซึ่งได้รับรางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอก ล้วนย่อมมีความเป็นเลิศในเกณฑ์ทั้งห้าที่ใช้ในการตัดสินโดยผู้ตรวจสอบของเรา ทว่าสำหรับในบทความนี้ น่าจะเป็นการเหมาะสมที่จะมุ่งเน้นไปที่เกณฑ์เพียงข้อเดียว ซึ่งทำให้ถ่ายรูปงาม ๆ ออกมาได้แจ่มที่สุดในบรรดาเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อ นั่นคือ “สถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน”
ถัดจากนี้เชิญตามไปชมภาพเด็ดอันเป็นไฮไลท์ และการตกแต่งทั้งภายในภายนอกของทุกโรงแรมที่ได้รับรางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอกแต่ละแห่งในประเทศสเปนกันได้เลย
© Mandarin Oriental Ritz, Madrid
© Mandarin Oriental Ritz, Madrid
Mandarin Oriental Ritz
กรุงมาดริด, ประเทศสเปนกว่าศตวรรษหลังการก่อตั้งโดย César Ritz นักการโรงแรมระดับตำนาน พระราชวังในยุคสวยงามหรือยุค “Belle Époque” แห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางของการให้บริการระดับแถวหน้าในเมืองหลวงของสเปน กษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 ทรงมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐาน รวมถึงสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
แม้กระทั่งทุกวันนี้ห้องพักและห้องสวีทของโรงแรมก็ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกยุคเก่า แม้ว่าจะเพิ่งทำการปรับปรุงใหม่ไปเมื่อปี 2564 แต่ก็มั่นใจได้แน่นอนว่าห้องพักและห้องสวีทเหล่านั้นจะยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีตอันรุ่งโรจน์ ห้องสวีทของที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราอย่างที่สุด แม้ห้องพักระดับเริ่มต้นก็ยังได้รับความสะดวกสบายเป็นที่หนึ่ง และยังมีความสะดวกสบายทันสมัยซ่อนอยู่ในละเอียดยุคเก่าที่ฉาบหน้าอีกด้วย
© Terra Dominicata - Hotel & Winery
© Terra Dominicata - Hotel & Winery
Terra Dominicata - Hotel & Winery
แอสกาเลด, ประเทศสเปนในศตวรรษที่ 12 ณ เชิงเขาห่างไปราวสองชั่วโมงทางทิศตะวันตกจากบาร์เซโลนา คณะภิกษุคาร์ทูเซียน (Carthusian) กลุ่มหนึ่งได้ก่อตั้งอารามและฟาร์มขึ้น โดยปลูกองุ่น มะกอก และผลไม้อื่น ๆ สถานที่ตั้งแห่งนี้ช่างงดงามจับใจ และแขกของโรงแรมในปัจจุบันก็ได้รับประโยชน์ดังกล่าว อารามเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันได้เปิดให้นักเดินทางได้เข้าพักภายใต้ชื่อ Terra Dominicata - Hotel & Winery
เพียงปรายตามองแค่แวบเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าที่พักแห่งนี้เป็นสถานประกอบการที่หรูหรากว่าในยุคสมัยที่ยังคงเป็นอารามมากนัก ห้องพักได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์หรูหราทันสมัย หากยังคงรักษาเอกลักษณ์ดิบเรียบแบบชนบทเอาไว้ ตั้งแต่เพดาน คานไม้ พื้นไม้เนื้อแข็ง ไปจนถึงผนังหินเก่าแบบดั้งเดิม
จองโรงแรม Terra Dominicata - Hotel & Winery กับ 'มิชลิน ไกด์' →
© Torre del Marqués Hotel Spa & Winery
© Torre del Marqués Hotel Spa & Winery
Torre del Marqués Hotel Spa & Winery
เตรูเอล, ประเทศสเปนบริเวณด้านในเทือกเขาเล็ก ๆ ในภูมิภาคมาตาร์ราญาแถบอาราโกนีส ระหว่างเมืองบาร์เซโลนาและบาเลนเซีย เป็นที่ตั้งของหอคอยตอร์เร เดล มาร์เกส แห่งยุคศตวรรษที่ 18 ซึ่งได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม หลังจากการซ่อมปรับปรุงใหม่ทั้งหมดแล้ว ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นโรงแรมบูติกหรูขนาด 18 ห้อง ที่นำเสนอการพักผ่อนสไตล์บ้านไร่ พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของสวนมะกอกและไร่องุ่น ตลอดจนดำเนินกิจการตามแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันรวมถึงปรัชญาการปรุงอาหารในแบบ ‘Zero-Kilometer Cooking Philosophy’ ซึ่งใช้เฉพาะวัตถุดิบท้องถิ่นที่อยู่ภายในรัศมีโดยรอบโรงแรม
ห้องพักผสมผสานกันอย่างสวยงามลงตัวระหว่างผนังหินเก่าที่มีร่องรอยผุกร่อนตามกาลเวลา ทว่าออกแบบภายในอย่างร่วมสมัย และมาพร้อมกับความสะดวกสบายระดับไฮเอนด์ รวมถึงห้องน้ำซึ่งทันสมัยเป็นพิเศษ รูปลักษณ์ค่อนข้างเรียบง่ายในโทนสีธรรมชาติอบอุ่น หากพื้นผิวรายละเอียดนั้นช่างโดดเด่น ตั้งแต่ด้วยพรมป่านศรนารายณ์ไปจนถึงไม้เปลือยและผนังกรุด้วยไม้สน
© Abadía Retuerta LeDomaine
© Abadía Retuerta LeDomaine
Abadía Retuerta LeDomaine
วาลลาโดลิด, ประเทศสเปนโรงแรมนี้สร้างขึ้นจากอาคารโบราณของสำนักสงฆ์สมัยศตวรรษที่ 12 ที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม สถานที่แห่งนี้มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์พอ ๆ กับปราสาทต่าง ๆ ในฝรั่งเศส และด้วยผลงานของสถาปนิก Marco Serra ก็เนรมิตรให้ที่นี่กลายเป็นโรงแรมบูทีคหรูหราร่วมสมัยอันดับหนึ่ง Abadía Retuerta LeDomaine ตั้งอยู่บนที่ดินอันไพศาลในบายาโดลิดบนไร่องุ่นกว้างใหญ่ขนาด 500 เอเคอร์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร Refectorio ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน ควบไปกับดาวมิชลินรักษ์โลก และอีกร้านคือ Vinoteca ซึ่งมีบรรยากาศเป็นกันเอง
ที่พักกลางไร่ไวน์แห่งนี้ยังมีสปาที่ผสมผสานผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตไวน์เข้ากับหลักการแพทย์ของทิเบต ทั้งยังสามารถจัดทัวร์ไร่องุ่นที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงแรมไปจนถึงโรงบ่มไวน์ใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย
© Atrio Restaurante Hotel
© Atrio Restaurante Hotel
Atrio Restaurante Hotel
กาเซเรส, ประเทศสเปนร้านอาหารสามดาวมิชลินที่ Atrio Restaurante Hotel เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเองดังชื่อของโรงแรมซึ่งเป็นเครื่องยืนยัน แน่นอนว่าการได้รับประทานอาหารย่อมเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ที่นี่ ทว่าตัวโรงแรมเองก็ไม่สมควรได้รับการมองข้ามด้วยประการทั้งปวง ห้องพักทันสมัยสะอาดตาจำนวน 14 ห้อง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับการบูรณาการอย่างเชี่ยวชาญ หากกลมกลืนเข้ากับฟาซาดส่วนหน้าของอาคารหินเก่าแก่อื่น ๆ ภายในเมืองกาเซเรสแห่งแคว้นเอซเตรมาดูราซึ่งมีกำแพงโบราณล้อมรอบ
หากเปรียบโรงแรมแห่งนี้เป็นเครื่องประดับตกแต่งสักชิ้น ย่อมเปรียบได้ดั่งผลงานศิลปะชิ้นเอกที่โดดเด่นในคอลเลกชันอันน่าประทับใจ ซึ่งอาจเป็นผลงานต้นฉบับของศิลปินดัง อย่าง Andy Warhol ในขณะเดียวกัน ที่พักแห่งนี้ยังมีพื้นที่มากมายสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจ ให้คุณได้มอบความสงบเป็นของขวัญให้กับตัวเอง แทบทุกอย่างเป็นสีขาวสดใส ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอนเรียบหรู ผนังกรุไม้ทาสี ผ้าม่านและโคมไฟ และห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่
ภาพเปิด: ©Torre del Marqués Hotel Spa & Winery
