‘มิชลิน ไกด์’ ประกาศเพิ่มรางวัลใหม่อีก 3 ประเภทในปีนี้ ได้แก่ MICHELIN Guide Young Chef Award รางวัลที่มอบให้กับเชฟรุ่นใหม่ที่โดดเด่น, MICHELIN Guide Service Award รางวัลสําหรับบุคลากรผู้ให้บริการยอดเยี่ยม และ MICHELIN Green Star รางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารซึ่งใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การมอบรางวัลเพิ่มในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการที่ ‘มิชลิน ไกด์’ ให้ความสําคัญต่อระบบนิเวศของร้านอาหารทั้งระบบ โดยรางวัลดังกล่าวมุ่งกระตุ้น ให้วงการอาหารและธุรกิจร้านอาหารในไทยเกิดการพัฒนายกระดับมาตรฐานในทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างขวัญและกําลังใจให้กับบุคลากรร้านอาหารตลอดจนกระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมสนับสนุนร้านอาหารในท้องถิ่นของตน โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
มร.เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อํานวยการฝ่ายจัดทําคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “รางวัล ใหม่เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ใส่ใจแต่เพียงคุณภาพของอาหารเท่านั้น ผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ ยังให้ความสําคัญกับคุณสมบัติที่โดดเด่น ทักษะความชํานาญ ตลอดจนความมุ่งมั่นทุ่มเทของบุคลากรและทีมงานร้านอาหารในการรังสรรค์ประสบการณ์การทานอาหารที่น่าประทับใจในทุกมิติ”
รางวัลใหม่ที่ ‘มิชลิน ไกด์’ เปิดตัวในครั้งนี้ ได้แก่ รางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award ซึ่งมอบให้กับสุดยอดเชฟรุ่นใหม่ของร้านอาหารในคู่มือที่มีทักษะความสามารถโดดเด่น รางวัล MICHELIN Guide Service Award ซึ่งมอบให้กับสุดยอดบุคลากรของร้านอาหารที่ทุ่มเทให้กับการบริการเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม และรางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ซึ่งมอบให้กับร้านอาหาร 1 แห่งหรือมากกว่านั้นที่ดําเนินกิจการและมีแนวปฏิบัติประจําวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อาทิ การรีไซเคิล การลดขยะอาหาร การจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและตามฤดูกาลด้วยความรับผิดชอบเพื่อช่วยรักษา สิ่งแวดล้อม ฯลฯ การมอบรางวัลเหล่านี้พิจารณาคัดเลือกจากข้อมูลที่สืบหาและจัดเก็บจากการลงพื้นที่โดยผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “รางวัลใหม่ของ ‘มิชลิน ไกด์’ จะเป็นแรงบันดาลใจให้เชฟ บุคลากร และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหาร มุ่งมั่นพัฒนาตนเองและดําเนินงานด้วยความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นกําลังใจให้พวกเขาเหล่านั้นฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปสู่เป้าหมายและความสําเร็จตามที่ต้องการ โดยรางวัลเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้วงการอาหารและธุรกิจร้านอาหารเกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนไปในทิศทางสู่ความเป็นเลิศบนพื้นฐานของอัตลักษณ์ที่โดดเด่นแบบไทย และนั่นคือความแตกต่างเฉพาะตัวที่จะช่วยสร้างจุดเด่นให้ ประเทศไทยครองความเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
อนึ่ง คู่มือแนะนําร้านอาหารและที่พัก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจําปี 2564 มีกําหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2563 นี้ โดยจัดทําเนื้อหาเป็น 2 ภาษา (ไทยและอังกฤษ) และมีให้เลือกทั้งฉบับพิมพ์เป็นเล่มและในรูปแบบดิจิทัล
ผู้สนใจสามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ที่: guide.michelin.com/th/th หรือติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ได้ทางเฟซบุค: facebook.com/MichelinGuideThailand
‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประกาศขยายขอบเขต การจัดอันดับร้านอาหารเข้าสู่จังหวัดชลบุรี
“ชลบุรี” เป็นจุดหมายล่าสุดในการเข้าดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568 โดยมีกำหนดเผยแพร่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
‘มิชลิน ไกด์’ เปิดตัว ‘MICHELIN Key’ ตราสัญลักษณ์พิเศษที่มอบให้กับโรงแรมที่นำเสนอประสบการณ์การเข้าพักอันยอดเยี่ยม
เพื่อล้อไปกับรางวัลดาวมิชลิน ‘มิชลิน คีย์’ (MICHELIN Key) จะมอบให้กับโรงแรมที่มีความเป็นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก
'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ปี 2567 รุกเจาะอาหารใต้ ขยายสู่เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี
คู่มือที่เตรียมเปิดตัวปลายปี 2566 นี้ครอบคลุมพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภูเก็ต, พังงา, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี, ขอนแก่น และล่าสุดขยายสู่เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี
คู่มือ 'มิชลิน ไกด์' รุกก้าวสู่ปีที่ 6 ขยายขอบเขตการคัดสรรร้านอาหารครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ “ภาคอีสาน” ของไทย
นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และขอนแก่น ได้รับคัดเลือกเป็น 4 เมืองตัวแทนภาคอีสานในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ปี 2566