ถนนเจริญกรุง ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ย่านบรูคลินของกรุงเทพฯ” ที่เปี่ยมไปด้วยการฟื้นฟูของศิลปวิทยาอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวของร้านใหม่สุดฮิปอย่างไม่ขาดสาย บนถนนสายประวัติศาสตร์อายุกว่า 150 ปีนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามจากชาวต่างชาติว่า นิวโรด (New Road) ซึ่งในภาษาไทย หมายถึง ถนนเส้นใหม่ วันนี้ถนนสายนี้ได้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ อย่างเต็มตัว เพราะที่นี่เต็มไปด้วย Art Gallery ร้านค้าต่างๆ และแน่นอนร้านอาหารของเชฟยอดฝีมืออีกมากมาย
คุณธนาวุฒิ โกศลวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินเพลท “80/20 หรือ เอ็ทตี้ ทเวนตี้” กล่าวว่า สิ่งที่คืนชีวิตให้กับย่านนี้ คือโรงแรมที่ผุดขึ้นมามากมาย ความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าถึงตัวตลาด ร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งบ้านหลังใหม่ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (หอสมุด พิพิธภัณฑ์ และโคเวิร์คกิ้งสเปซ ที่รู้จักกันในชื่อ TCDC) และแก่นแท้ความเป็นชุมชนของย่านนี้ด้วย
“เราเชื่อว่าส่วนสำคัญของธุรกิจอาหารก็คือผู้คน” คุณธนาวุฒิ กล่าว “เจริญกรุงกลายเป็นย่านยอดฮิตแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ได้ เพราะการร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในย่านนี้ การช่วยเหลือซึ่งกันเละกันย่อมดีกว่าการทำลงมือทำแค่คนเดียว”
ร้าน 80/20 ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลจากท้องถิ่นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และตกแต่งร้านอาหารสไตล์ Industrial เก๋ๆ พร้อมครัวแบบเปิดที่มอบความเป็น brasserie ที่เหนือระดับให้กับลูกค้า ทีมเชฟชาวไทยและญี่ปุ่นพร้อมปรุงเมนูยอดนิยมอย่าง crackling-studded pork belly ให้คุณได้ลิ้มลอง
ถัดไปไม่ไกล คือร้าน 100 มหาเศรษฐ์ ที่ดึงดูดเหล่าฮิปสเตอร์ผู้ชื่นชอบอาหารอีสานด้วยเมนูแนะนำของทางร้าน “ไขกระดูกส้าขี้ม่อน” ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในตึก 2 ชั้น ตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยอิฐและกระจก จากนั้นหากมุ่งหน้าไปทางใต้อีกเล็กน้อย จะพบกับร้านรางวัลบิบกูร์มองด์อีกเจ้าของย่านนี้ คือ ร้านบ้านผัดไทยที่โดดเด่นด้านการใช้วัตถุดิบชั้นยอดในการปรุงเมนูสัญชาติไทยภายใต้บรรยากาศแนวบิสโทร ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
เชฟ Chalee Kader ผู้สั่งสมประสบการณ์ทำอาหารในซานฟรานซิสโกมานานหลายปี และเชฟแรนดี้ ชัยชัช นพประภาที่เกิดและเติบโตมาในสหรัฐ ร่วมเปิดร้าน 100 มหาเศรษฐ์ บนถนนเจริญกรุงไปพร้อมกับการสร้างความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัวกับคนในท้องถิ่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเรามีใจที่ดีและความรู้สึกที่ดีที่มอบให้แก่กัน” เชฟ Chalee กล่าว
ไม่มีอะไรพิสูจน์คำกล่าวนั้นได้ดีไปกว่ากิจกรรม “Block Party” ของย่านนี้อีกแล้ว ดินเนอร์การกุศลที่ประกอบไปด้วยเมนูจาก 80/20, จั่ว และ 100 มหาเศรษฐ์ พร้อมทั้งค็อกเทลจาก ทรอปิคซิตี้ บาร์ท้องถิ่นสไตล์ทิกิ กิจกรรมครั้งล่าสุดนี้ จัดขึ้นที่ซอยเจริญกรุง 28 เต็มไปด้วยแขกที่มาเพื่อลิ้มรสพริกแกง ไก่ย่างเสียบไม้ และปลากะพงขาวย่างไซส์ยักษ์ที่จัดวางไว้บนโต๊ะปิกนิกอย่างเรียบง่าย ซึ่งรายได้ที่ได้รับจะถูกจัดสรรให้แก่ชุมชนรอบๆ ตลาดน้อย ย่านเก่าแก่ที่กำลังฟื้นฟู เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ของเจริญกรุง
ถนนเจริญกรุงสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 4 เพื่อรองรับผู้พักอาศัยต่างชาติ ที่ต้องการถนนที่เหมาะแก่การขี่เกวียนม้าลาก ถนนยาว 8.5 ก.ม. นี้ จึงเป็นจุดสนใจของผู้ที่ต้องการเปิดร้านและเหล่าพ่อค้าแม่ขายมากมาย จนกลายเป็นแหล่งพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวลาไม่นาน ทุกวันนี้กลิ่นอายของถนนแห่งการค้าขายยังไม่จางหายไป และยังคงเต็มไปด้วยร้านชาวไทย-จีนจำนวนมาก รวมไปถึง Art Gallery แนว edgy ทั้งหลาย แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน และร้านอาหารริมทางต่างๆ อีกด้วย
Speedy Grandma (เจริญกรุง 28) จัดแสดงผลงานศิลปะในบรรยากาศแบบเรียบง่าย ด้วยสไตล์การตกแต่งแบบ minimal ในห้องคอนกรีต ศิลปะที่นำมาจัดแสดงคือผลงานของศิลปินหนุ่มสาวไทยนั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่ยังเสิร์ฟเครื่องดื่ม ฉายภาพยนตร์ และจัดเป็นพื้นที่สำหรับขายของอีกด้วย ซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวหัวศิลป์ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้ที่ต้องการหาที่นั่งดื่มเเบบฮิปๆ ลองแวะไปที่ตึกลับ FooJohn (เจริญกรุง 31) ที่ชวนให้หวนรำลึกถึงภาพยนตร์ที่น่าหลงใหล เรื่อง “In the Mood for Love” ของ Wong Kar-wai อาจถือได้ว่าที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจแนวนี้เลยก็ว่าได้ โดยสองชั้นแรกเป็นค็อกเทลบาร์สไตล์ฝรั่งเศสแนวบิสโทร ขณะที่ชั้น 3 และ 4 เป็นพื้นที่ของร้าน Spare Parts ซึ่งก่อตั้งโดยเชฟชาวอเมริกาผู้เติบโตในประเทศไทย ร้านนี้เสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์เท็กซัส เรียกได้ว่าข้ามทวีปมาให้ทานถึงที่เลยทีเดียว
ร้านอาหารริมทางรางวัลบิบกูร์มองด์ที่เปิดมายาวนานอย่าง โจ๊กปรินซ์ (1391 ถนนเจริญกรุง) ซึ่งย้ายจากที่ตั้งหลัง Prince Hotel มาเปิดที่นี่ รับรองว่าโจ๊กเนื้อเนียนรสชาตินุ่มแห่งนี้อร่อยสมคำร่ำลือแน่นอน นอกจากนี้ยังมีร้านลูกชิ้นปลาอย่าง เจ้าหลง และ เจ้หลี (1456 ถนนเจริญกรุง) คู่แข่งประจำท้องถิ่น ทั้งคู่ประชันฝีมือกันมาอย่างช้านาน เพื่อพิสูจน์ว่าใครคือผู้ที่เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวน้ำที่อร่อยที่สุด
ท้ายที่สุดแล้ว คงจะเป็น “เสน่ห์” ที่ไม่อาจอธิบายได้ของย่านนี้เอง ที่สามารถครองใจผู้คนทั้งหลายรวมถึงเชฟ Chet Adkins เจ้าของร้านจั่ว ที่อาศัยอยู่เพียง 800 เมตรจากร้านของเขา ซึ่งห่างจากร้าน 80/20 เพียงนิดเดียวเท่านั้น ร้านจั่วเสิร์ฟอาหารแนวยากิโทริ เช่น เมนูกุ้งลายเสือทาเนยทุเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เชฟ Chet Ad-kins เคยเป็น Excecutive Chef ของร้านอาหารชื่อดังอย่าง Ku De Ta มาก่อน และถึงแม้ว่าเขาจะเกิดที่ฟลอริดา แต่เขายินดีอย่างยิ่งที่จะเรียกเจริญกรุงว่าเป็นบ้านหลังใหม่ และเรียกเชฟโจ้ จันทรเกตุแห่งร้าน 80/20 และเชฟแรนดี้ แห่ง 100 มหาเศรษฐ์ ว่าเป็นคนในครอบครัวของเขา
“ที่นี่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผมสามารถพูดได้เลยว่าที่นี่คือประเทศไทยอย่างแท้จริง” เขากล่าวขณะพักจากช่วงอาหารค่ำที่แสนวุ่นวาย
รีวิวร้าน เอ็ทตี้ ทเวนตี้ จากผู้ตรวจสอบมิชลิน (รางวัลมิชลินเพลท)
ย่านเก่าแก่ยอดนิยมอย่างเจริญกรุง ที่ซึ่งทุกรายละเอียดล้วนน่าสนใจและไม่ธรรมดา รวมถึงร้าน 80/20 ที่นำเสนออาหารไทยในมุมที่แตกต่าง 80% ของวัตถุดิบที่นี่เป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาซื้อได้จากตลาดน้อยที่อยู่ใกล้ๆ 80/20 มีหลายเมนูโดดเด่น เช่น เมนูปลาทูน่าที่บรรจงจี่ไฟเสิร์ฟกับหัวไชเท้า องุ่นแช่แข็ง และดอกอัญชัญ หรือหมึกย่างถ่านกับซอสส้มซ่าก็น่าลิ้มลอง อย่าลืมเผื่อท้องไว้ชิมขนมหวานเลิศรสของทางร้านด้วย
รีวิวร้าน บ้านผัดไทย จากผู้ตรวจสอบมิชลิน (บิบ กูร์มองด์)
บ้านผัดไทยเกิดจากความตั้งใจที่จะยกระดับเมนูง่ายๆ อย่างผัดไทยให้มีมูลค่ามากขึ้น เคล็ดลับอยู่ที่ซอสผัดไทยที่ใช้ส่วนผสมต่างๆ มากถึง 18-20 ชนิด และผัดไทยที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น กุ้งแม่น้ำ หมู หรือไก่ แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ ผัดไทยปูและเต้าหู้ทอดโฮมเมด ผัดไทยมีการจัดแต่งที่สวยงามแต่ยังคงรสแท้ดั้งเดิมที่จะถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
รีวิวร้าน โจ๊กปรินซ์ จากผู้ตรวจสอบมิชลิน (ร้านอาหารริมทางที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์)
โจ๊กเป็นอาหารทานง่ายอิ่มสบายท้องที่อยู่คู่กับคนเอเชียมานาน โจ๊กอร่อยร้านดังแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ที่หาไม่ง่าย แต่เมื่อได้ลิ้มลองก็จะรู้ว่าอร่อยสมคำร่ำลือและคุ้มค่าที่ตามหา โจ๊กเนื้อ เนียนนุ่มต้มจากปลายข้าวชั้นดี ใส่หมูสับก้อนโต หอมกลิ่นเตาถ่านอันเป็นเอกลักษณ์ เลือกทานร้อนๆ กับไข่ลวกหรือไข่เยี่ยวม้าได้ตามใจชอบ
