ทานอาหารนอกบ้าน 7 minutes 11 มีนาคม 2022

ร้านใหม่นอกกรุงจาก ​Le Du, Chim by Siam Wisdom, เชฟหน้าใหม่จาก Elements และข่าวห้ามพลาดในแวดวงร้านอาหาร

รวมข่าวที่คุณไม่ควรพลาดมาไว้แล้วที่นี่

เพิ่งขยับขาเข้ามาแค่ต้นปี แต่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของคนในวงการอาหารกลับคึกคักกันจนแทบตามไม่ทัน เชฟระดับร้านรางวัลดาวมิชลินต่างก็ไม่อยู่นิ่ง ทั้งเปิดร้านใหม่ ขยับขยายสู่จังหวัดใหม่ รวมไปถึงการเปิดตัวเชฟหน้าใหม่อีกหลายร้าน และยังมีเมนูใหม่ของร้านที่พ่อครัวแม่ครัวในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ปลุกปั้นขึ้นมาเพื่อรอคุณไปชิม

เรารวมความเคลื่อนไหวของวงการกินดื่มน่ารู้มาให้คุณแล้ว ดังนี้

โฉมหน้าร้านใหม่ของเชฟแบล็ก (© Blackitch Artisan Kitchen)
โฉมหน้าร้านใหม่ของเชฟแบล็ก (© Blackitch Artisan Kitchen)

Blackitch Artisan Kitchen เตรียมปรับโฉม พร้อมเปิดเดือนพฤษภาคม
หากคุณกำลังเตรียมจองมื้ออาหารที่ร้าน Blackitch Artisan Kitchen (ร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565) เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ บอกให้อดใจรอสักนิด เพราะทางร้านกำลังปรับโฉมใหม่ ที่เชฟบอกกับเราว่าไฉไลขึ้น “ปรับให้ดูเรียบขึ้น แต่ยังคงความสบายเหมือนอยู่บ้านเอาไว้” โดยทางร้านจะปิดชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือน และพร้อมเปิดประตูต้อนรับนักกินอีกครั้งกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ระหว่างนี้เชฟชาวเชียงใหม่จะตระเวนออกทัวร์ทำป๊อปอัปกับร้านต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ อยุธยา หัวหิน รวมถึงสมุย ให้ติดตามชิมกันได้

พิกัด: 27/1 ถ.นิมมานเหมินทร์ ซ.7 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08 1881 9144

ร้านใหม่ของเชฟต้นในภูเก็ต (© Samut Phuket)
ร้านใหม่ของเชฟต้นในภูเก็ต (© Samut Phuket)

เชฟต้นขยายอาณาจักรอาหารสู่อันดามัน
แม้เราจะคิดว่าร้านอาหารทั้ง 7 แห่งของเขาน่าจะทำให้เชฟไฟแรงคนนี้ยุ่งสุดตัว แต่ผิดเสียแล้ว เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร แห่งร้าน Le Du (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน), ร้านบ้าน และร้านนุสรา (ร้านได้รับการคัดเลือกในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565) ยังคงออกเดินทางเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทยในมุมมองของเขาต่อ โดยมุ่งสู่เกาะภูเก็ต กับร้านสมุทร อันเป็นร้านอาหารนอกกรุงเทพฯ แห่งที่สองของเขา (ต่อจากร้านบ้าน ในไทเป) ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เชฟต้นบอกกับเราว่าเขาได้แรงบันดาลใจเปิดร้านนี้มาจากการใช้เวลาอยู่ในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ทำให้เขาเห็นว่าตลาดไฟน์ไดนิ่งยังเปิดกว้างในภูเก็ตที่คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว รวมถึงอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่ยังมีน้อยมาก บวกกับความต้องการผลักดันให้ผลผลิตไทยโดยเฉพาะจากชาวประมงพื้นบ้านและผู้ผลิตรายย่อยได้พัฒนาต่อเพื่อโชว์ศักยภาพวัตถุดิบแบบไทย ๆ ว่าอร่อยไม่แพ้ใคร โดยสมุทรไม่ใช่ร้านอาหารทะเล แต่ตั้งใจนำเสนอผลผลิตแห่งท้องทะเลอันดามันและพื้นเพของภูเก็ตออกมาเป็นอาหารไฟน์ไดนิ่งเทสติ้งเมนู 16 คอร์ส ราคาต่อหัวอยู่ที่ 2,290 บาท โดยมีทั้งเมนูจากล็อบสเตอร์ หอยหลอดยักษ์ หอยหวาน หอยมะระ ฯลฯ หากโฉบไปภูเก็ต แวะไปลิ้มลองอาหารไทยใส่ความโมเดิร์นทวิสต์ด้วยเทคนิคตะวันตกแบบเชฟต้นกันได้

พิกัด: สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 06 1162 5269 หรือ https://lin.ee/ETvjJwn

เชฟโนริฮิซะ มาเอดะ กับเมนูใหม่ของร้าน (© Kinu by Takagi, Pruepat Songtieng)
เชฟโนริฮิซะ มาเอดะ กับเมนูใหม่ของร้าน (© Kinu by Takagi, Pruepat Songtieng)

Kinu by Takagi เปิดตัวเมนูฤดูใบไม้ผลิตามตำรับวัฒนธรรมเคียวเรียวริ
ห้องอาหารโอมากาเสะแห่งโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ที่ติดอยู่ในลิสต์ร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 สด ๆ ร้อน ๆ อย่าง Kinu by Takagi กลับมาเปิดอย่างเต็มตัวอีกครั้ง โดยเชฟทาคากิ คะซุโอะ (Takaki Kazuo) เชฟและเจ้าของห้องอาหาร Kyoto Cuisine Takagi ในเมืองอะชิยะ ผู้ส่งผ่านวัฒนธรรมด้านอาหารเคียวเรียวริ (Kyo-ryori) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในที่สุดแห่งการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นที่ไม่เพียงชูรสชาติอาหารตามฤดูกาลแต่ยังชวนเพลิดเพลินในทุกโสตประสาท สำหรับฤดูใบไม้ผลินี้เชฟนำเสนอวัตถุดิบชั้นเลิศจากหลากหลายจังหวัดในแดนอาทิตย์อุทัย เช่น หอยนางรมฮอกไกโด หอยฮามากุริจากชิบะ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์อามะโอะจากฟุกุโอกะ และเนื้อฮากาตะวากิวจากฟุกุโอกะระดับรางวัลเหรียญทองวากิวโอลิมปิก โดยถ่ายทอดผ่านฝีมือเชฟโนริฮิซะ มาเอดะ (Norihisa Maeda) เชฟคนใหม่ประจำห้องอาหาร ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 5 คอร์สสำหรับมื้อกลางวัน ราคา 4,000 บาท++ และ 10 คอร์สสำหรับมื้อค่ำ ราคา 8,000 บาท++

ป.ล. นอกจากอาหาร คุณยังจะได้พกบทเรียนวัฒนธรรมสุดแสนญี่ปุ่นกลับบ้าน เช่น การฉีดสเปรย์บนฝาถ้วย ที่เป็นเทคนิคในการตรวจสอบว่ามีใครเปิดฝาอาหารตำรับของซามูไร เป็นต้น

พิกัด: ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2659 9000

ร้านที่ชูวัตถุดิบของเขาใหญ่ของเชฟหนุ่ม (© The Gardener Khaoyai)
ร้านที่ชูวัตถุดิบของเขาใหญ่ของเชฟหนุ่ม (© The Gardener Khaoyai)

เชฟหนุ่ม-ธนินธร จันทรวรรณ กับร้านใหม่ชูวัตถุดิบของเขาใหญ่
อีกพ่อครัวชาวไทยผู้ไม่เคยอยู่นิ่งแห่งร้าน Chim by Siam Wisdom (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) ขยับตัวอีกครั้งด้วยการเปิดตัว ​The Gardener Khaoyai ร้านอาหารแห่งใหม่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยเชฟหนุ่ม-ธนินธร บอกกับเราว่าได้แรงบันดาลใจมาตั้งแต่ได้ไปเยี่ยมร้านรางวัลสามดาวมิชลิน The French Laundry ของเชฟโทมัส เคลเลอร์ (Thomas Keller) ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสและทำความรู้จักวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด กอปรกับการได้เห็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ของเขาใหญ่ ที่เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบไทยชั้นยอดทั้งฟาร์มปศุสัตว์ไปจนพืชผักผลไม้ รวมถึงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งชาวไทยและเทศ และได้เห็นตลาดที่ยังว่างอยู่ระหว่างสเต๊กเฮาส์และร้านบิสโทรที่มีจำนวนมาก กับร้านอาหารพื้นบ้านอย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อและอาหารตามสั่ง เขาจึงจับมือกับชาวไร่ชาวสวนและผู้ผลิตในพื้นที่ ร่วมกันนำความอร่อยรสชาติตำรับโคราชมาขึ้นโต๊ะอาหาร จนเกิดเป็นร้านอาหารที่ใส่ปณิธานอุทิศให้แก่ผลผลิตในพื้นที่โดยเฉพาะ โดยเชฟหนุ่มนำอิทธิพลการทำอาหารไทยกลิ่นอายจีนของเขาและลูกมือปรุงใส่เข้าไปด้วย เมนูของที่นี่จึงมีทั้งการใช้เนื้อจากฟาร์มโชคชัยในพื้นที่ มะเขือเทศจากสวนปลูกเอง ไข่ไก่ออร์แกนิก ไปยันเห็ดตับเต่า ทำออกมาเป็นอาหารหลากหลายสัญชาติโดยมีดาราเหล่านี้เป็นวัตถุดิบ โดยเปิดให้บริการเฉพาะผู้ที่จองล่วงหน้าเท่านั้น

พิกัด: ถ.ธนะรัชต์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 06 3957 1999


เนื้อวากิวออสเตรเลียจากเจฟฟ์ แรมซีย์ (© Kintsuki by Jeff Ramsey)
เนื้อวากิวออสเตรเลียจากเจฟฟ์ แรมซีย์ (© Kintsuki by Jeff Ramsey)

เมนูใหม่ที่ Kintsugi by Jeff Ramsey
ร้านบนชั้น 3 ของโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก จากเจฟฟ์ แรมซีย์ (Jeff Ramsey) เชฟไฟแรงลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการร้านอาหารญี่ปุ่นระดับรางวัลดาวมิชลิน รวมถึงได้ฝึกฝีมือการทำทาปาสแบบสเปนมาก่อนหน้า แม้ตัวเขาจะประจำการอยู่ในมาเลเซีย แต่ทีมร้าน Kintsugi by Jeff Ramsey ก็นำเสนอรสชาติอาหารแบบไคเซกิผสมยุโรปตอนใต้ได้อย่างต่อเนื่องจนเข้าตาผู้ตรวจสอบของมิชลินและติดอันดับร้านแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ฉบับล่าสุด โดยทางร้านได้เปิดตัวดินเนอร์เซตเมนูใหม่ตามฤดูกาลที่ดึงวัตถุดิบญี่ปุ่นมาใช้แต่ฉาบบาง ๆ ไว้ด้วยความเป็นทาปาสแบบสเปนเช่นเคย เช่น ไข่ตุ๋นปูหิมะและชีสพาร์เมซาน ตับปลามังก์ฟิชและปลาแซลมอน พริกหวานสเปนย่าง เป็นต้น

พิกัด: ชั้น 3 โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ถ.วิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2650 8800

เมนูใหม่จากเชฟเจราร์ด บียาเรต ออร์กาโค (© Elements, Inspired by Ciel Bleu)
เมนูใหม่จากเชฟเจราร์ด บียาเรต ออร์กาโค (© Elements, Inspired by Ciel Bleu)

Elements, Inspired by Ciel Bleu เปิดตัวเชฟคนใหม่พร้อมเมนูใหม่
หลังเปลี่ยนชื่อจาก Elements เป็น Elements, Inspired by Ciel Bleu ตามห้องอาหารแฟล็กชิปรางวัลสองดาวมิชลิน Ciel Bleu ที่โรงแรมโอกุระในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ไปไม่นาน ร้านอาหารรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ก็เปิดตัวเชฟเจราร์ด บียาเรต ออร์กาโค (Gerard Villaret Horcajo) เชฟคนใหม่ที่มารับหน้าที่เชฟเดอคุยซีนต่อจากเชฟฮานส์ ซาห์เนอร์ (Hans Zahner) ที่ย้ายไปยังกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ก่อนหน้า

เชฟชาวสเปนวัย 33 ปีผู้นี้ฝึกปรือฝีมืออย่างใกล้ชิดกับเชฟชาวดัตช์มากความสามารถ อาร์จัน สปีลมัน (Arjan Speelman) ที่ร้าน Ceil Bleu โดยเชฟเจราร์ดนำทักษะและความสามารถที่เขาสั่งสมมาจากทั้งการทำงานในครัวสเปน เม็กซิกัน รวมถึงการฝึกงานและทำงานในร้านอาหารระดับรางวัลดาวมิชลินในยุโรป เช่น Dinner by Heston Blumenthal (รางวัลสองดาวมิชลิน) ของเชฟหัวก้าวหน้าด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ชื่อดังในกรุงลอนดอน, Azurmendi (รางวัลสามดาวมิชลิน) ใบแคว้นบาสก์ของเชฟเอนีโก แอตซา (Eneko Atxa) รวมถึงพ่อครัวแห่งศาสตร์การทำช็อกโกแลตชื่อดัง ปิแอร์ มาร์โคลินี (Pierre Marcolini) นอกจากนี้ยังรวมถึง Vendôme (รางวัลสามดาวมิชลิน) ในเยอรมนี, Daalder (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) และ De Librije (รางวัลสามดาวมิชลิน) ในฮอลแลนด์

เชฟไฟแรงคนนี้นำสิ่งที่เรียนรู้มาตลอดมาใช้กับวัตถุดิบชั้นยอดตามสไตล์ญี่ปุ่นและยุโรปมานำเสนอในรูปแบบอาหารฝรั่งเศส จนออกมาเป็น “Spring Guestronomic Set Journey” เมนูใหม่ล่าสุดที่เขานำปรัชญา “Nose to Tail” มาถ่ายทอดร่วมกับเทคนิคแบบฝรั่งเศสที่สอดแทรกความเป็นญี่ปุ่นลงไปด้วย “ผมยินดีที่ได้มาร่วมงานกับทีมที่กรุงเทพฯ และได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากที่นี่ รวมถึงได้ทำอะไรสนุก ๆ กับทีมงานและวัตถุดิบตามฤดูกาลชั้นยอดในแถบนี้โดยเฉพาะทางฝั่งญี่ปุ่น ผมอยากทำอะไรที่สร้างสรรค์และสนุก ออกมาเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่สวยงาม ซับซ้อน และอร่อย” 

เมนู Spring Guestronomic Set Journey เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Ku-Ki Experience (4 คอร์ส) ราคา 3,800 บาท++ ต่อท่าน, Chikyu Experience (6 คอร์ส) ราคา 4,600 บาท++ ต่อท่าน และ Mizu Experience (8 คอร์ส) ราคา 5,900 บาท++ ต่อท่าน

พิกัด: ชั้น 25 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ถ.วิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2687 9000

ร้านจากรุ่นลูกของห้องอาหารไทยตำรับคลาสสิก (© Baan Daeng by Methavalai Sorndaeng)
ร้านจากรุ่นลูกของห้องอาหารไทยตำรับคลาสสิก (© Baan Daeng by Methavalai Sorndaeng)

“บ้านแดง” ร้านจากรุ่นลูกของเมธาวลัย ศรแดงเปิดตัวแล้ว
เมื่อปลายปี 2563 คุณจิระวุฒิ ทรัพย์คีรี ผู้เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้านผู้สืบสานตำนานและรสชาติอาหารของร้านอาหารไทยโบราณ เมธาวลัย ศรแดง (รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน) บอกกับเราไว้ว่าเขากำลังจะส่งมอบไม้ต่อให้ลูก ๆ ทั้ง 3 ได้เข้ามาช่วยแบ่งเบา รับผิดชอบ เรียนรู้ดูแลกิจการ โดยการเปิดร้านใหม่ในเครือเดียวกัน นั่นคือ “บ้านแดง โดย เมธาวลัย ศรแดง” ให้เป็นการเปิดตำนานบทใหม่ของร้านอาหารไทยเก่าแก่อันแสนคลาสสิกและมีชื่อเสียงมายาวนานร้านนี้ และร้านจากรุ่นลูก ๆ แห่งนี้ก็เปิดประตูต้อนรับทุกท่านอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่ที่ซอยจุฬาฯ 5 เสิร์ฟอาหารตำรับไทยสูตรดั้งเดิมของร้านคุณพ่อ แต่ปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัยทั้งตัวร้านและการนำเสนอเพื่อให้ดึงดูดคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยยังไม่ทิ้งลายความเป็นไทยเดิมเอาไว้ เช่น เมนูกระทงทองบ้านแดง จานเรียกน้ำย่อยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนึ่งในเมนูยอดนิยมที่ร้านเมธาวลัย ศรแดง หรือแตงโมพริกเกลือบ๊วยส้มซ่า ที่นำแตงโมสดมาตัดรสด้วยบ๊วยและน้ำส้มซ่าที่ให้รสชาติอมเปรี้ยว และเนื้อเค็มหรือหมูเค็มต้มขมิ้น เป็นต้น โดยมีบริการเดลิเวอรีด้วยเช่นกัน

พิกัด: บล็อก 28 ซ.จุฬาฯ 5 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 06 3624 6652


ห้องอาหารญี่ปุ่น Yamazato กับคอนเซปต์ที่แยกเป็น 3 ส่วน (© Yamazato)
ห้องอาหารญี่ปุ่น Yamazato กับคอนเซปต์ที่แยกเป็น 3 ส่วน (© Yamazato)

3 คอนเซปต์ห้องอาหารภายในร้าน Yamazato
ห้องอาหาร Yamazato ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 ปรับโฉมใหม่ด้วยการแยกโซนและแตกคอนเซปต์ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Kaiseki Omakase โอมากาเสะสไตล์ไคเซกิด้วยวัตถุดิบจากหลากหลายจังหวัดจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่บริเวณบาร์โอมากาเสะด้านหน้าซึ่งทำขึ้นใหม่, Sazanka Teppanyaki by Yamazato เปิดประสบการณ์เทปปันยากิจากวัตถุดิบชั้นยอดบริเวณด้านในสุดของร้าน และแน่นอนว่ายังคงรักษาอาหารแบบไคเซกิดั้งเดิมของ Yamazato ที่ให้บริการมาตลอดเอาไว้ให้ได้รับประทานกัน ทั้งหมดเปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ “Craftsmanship served on the plate” โดยมีเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) เป็นผู้นำทัพทีมครัวทั้งหมด ซึ่งทั้ง 3 คอนเซปต์เปิดตัวให้พร้อมแวะไปลิ้มลองกันแล้ววันนี้

พิกัด: ชั้น 24 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ถ.วิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2687 9000

เมนูกุ้งมังกรจากเชฟท็อป (© Mia)
เมนูกุ้งมังกรจากเชฟท็อป (© Mia)

Mia เปิดตัวเมนูฤดูใบไม้ผลิ
เชฟท็อป รัสเซลล์ (Top Russell) และเชฟมิเชล โกห์ (Michelle Goh) แห่งร้าน Mia ที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 เปิดตัวเทสติ้งเมนู 7 คอร์สล่าสุด โดยนำเมนูที่แฟน ๆ ร้าน Mia คุ้นเคยก่อนหน้ามาปรับโฉมให้เข้ากับฤดูกาล ผสมกับเมนูโปรดจากเชฟที่กลับมาพร้อมกัน เช่น หอยนางรม Ostra Regal, Duxelle Tartlet กับซอสออล็องแดซและเห็ดทรัฟเฟิลดำ ไปจนเมนูหน้าใหม่ที่เปิดสัมผัสรสชาติฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเอร็ดอร่อย อย่าง Thyme & Cumin Cracker และ Garden Peas ที่นำถั่วแบบไทยที่อร่อยที่สุดในช่วงนี้มานำเสนอได้อย่างสดใหม่ พร้อมลูกเล่นกรุบกรอบในปากอย่างน่าสนุก ส่วนสายคาร์บต้องปลื้มขนมปังบริออชซาวร์โดของเชฟมิเชลที่หอมกรุ่นจากเตา รับประทานกับเนยที่ใส่หอมแดง โรยด้วยผงหอมสีดำ พวกเขายังชวนให้เราอยากไปทะเลหน้าร้อนด้วยอาหารทะเลที่เสิร์ฟติด ๆ กัน อย่างปลาเทราต์ทะเลย่างกับเฟนเนล ส้มสีเลือด และเมล็ดอัลมอนด์ที่เชฟท็อปนำไปลวกให้รับประทานกันแบบได้รสชาติของอัลมอนด์เต็ม ๆ และเชฟท็อปยังนำเป็ดจากเมืองชลจากเมนูก่อน ๆ หน้ากลับมาอีกครั้ง โดยเขานำมาเอจ 14 วันแล้วเติมความหอมด้วยการย่างฟาง เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกเป็ดที่ใส่ฟัวกราส์และลาร์โดจากเป็ด อย่าลืมเมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ของเชฟมิเชลอย่าง Cereal Bowl ที่เราเคยเขียนถึงไปแล้ว เทสติ้งเมนู 7 คอร์สนี้ราคา 4,250 บาท++ ต่อคน และ 5 คอร์สราคา 3,650 บาท++ หรือจ่ายเพิ่ม 2,250 บาท++ เพื่อจับคู่กับไวน์แพริ่ง 5 แก้ว

พิกัด: 30 ซ.อรรถกวี 1 ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2080 0080, 0 2258 6745


ทานอาหารนอกบ้าน

ดูอย่างอื่นต่อ - เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ